Searh

2553-05-20

หยุดทำร้ายประเทศไทยกันเสียที

หลังจากทนอัดอั้นมานาน ในที่สุดก็ตัดสินใจระบายความในใจออกมาเป็นบันทึก

เราก็รู้กันดีอยู่แล้ว วันนี้ ประเทศไทยของเรากำลังดำดิ่งลงสู่หุบเหวลึกที่หาทางออกไม่ได้

การจลาจลย่อยๆ แต่ยาวนาน ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

จากภาพกรุงเทพมหานครซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายธุรกิจและผู้คน กลับกลายเป็นกึ่งเมืองร้างในบางจุด

และสาดทับไปด้วยวความหวาดหวั่น

เราไม่รู้เลย ไม่รู้ว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเกิดอะไรขึ้น...ที่บ้านของเรา...บ้านแห่งนี้ ที่ชื่อว่าประเทศไทย


กำลังแรงเล็กๆ กับอำนาจที่ว่างเปล่าในกำมือ ทำให้เราท้อ เราเหนื่อย

เราไม่รู้ว่าจะช่วยประเทศไทยของเรายังไงดี..

สายตาจับจ้องมองดู หูฟังข่าว ภาพเหตุการณ์สับสนอลหม่าน มีฉายออกมาเป็นระยะๆ

นี่มันอะไรกัน ? นี่กรุงเทพฯ จิงหรอ...

ไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ดินแดนสารขัณฑ์

แผ่นดินแห่งเมืองพุทธ...


เราไม่รู้ว่าใครผิด ใครถูก

เราไม่มีสี และไม่คิดจะมี

เราไม่เพ่งมองการกระทำของคนอื่นว่า คุณถูก หรือว่าคุณผิด

เพราะเราเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ยากกว่าเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เมื่อความจริงเป็นสิ่งที่รู้ได้ยาก เราจึงเลิกที่จะเพ่งโทษคนอื่น...



สิทธิในการชุมนุม และแสดงความคิดเห็น เป็นเครื่องมือที่ฉายแววความแท้จริงส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย

แต่คุณๆทุกท่าน จงอย่าลืมกรอบเกณฑ์ของมันที่เป็นความชอบด้วยกฎหมาย

คือ ไม่กระทบสิทธิคนอื่น ไม่ทำความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้อื่น

หรือ ถ้ามองในแง่ธรรมะ ก็คือ ศีลธรรมสำนึกขั้นพืนฐานด้วย...


เราไม่ได้กำลังประณามว่าร้ายเหล่า ผู้ชุมนุม

สิ่งที่เรากำลังทำ คือ เราอยากให้ทุกๆคน พิจารณาความควรไม่ควรแห่งการกระทำของตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังดูทีวี กำลังฟังเพลง กำลังเดินเล่น...หรืออะไรก็ตามแต่


เรารู้ และยังคงมองโลกในแง่ดีว่า ทุกๆคนบนผืนแผ่นดินนี้ยังคงรักประเทศไทย

เพราะเราทุกคนยังคงเป็นหนี้ดินแดนนี้มากมายเหลือเกิน...

สิ่งนี้เป็นข้อเท็จจริงที่คุณๆทุกคนปฏิเสธไม่ได้

อย่าลืมว่า แค่เพียงคุณลืมตาตื่นขึ้นมา คุณก็ได้สูดเอาอากาศจากผืนแผ่นดินนี้เข้าไปเสียแล้ว


ทุกวันนี้แม่ยังคงสอนให้เรา รู้จักความดี และการทำความดี

ยังจำได้มั้ยคะ ว่า ความกตัญญู คือ เรื่องหลักสำคัญๆของกาารทำดี ทำบุญ เช่นกัน

ใครให้อะไรเรา เราต้องขอบคุณ

ใครทำร้ายเรา อย่าไปอาฆาตเขา เพราะเรานั่นแหล่ะจะเป็นทุกข์

หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น...


ทั้ง พ่่อหลวง และประเทศไทย ก็เป็นบุพการีของเราเหมือนกัน

เราอาจจะมองข้ามไปด้วยความเคยชินทั้งๆที่ เรายังคงได้สัมผัสความรัก และการให้จากบุพการีทั้งสองนี้อยู่ทุกๆวินาที


เราเป็นแค่ประชาชนคนหนึ่ง...

เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่เสียงไม่ดัง เท่าผู้มีอำนาจ

ที่ไร้กำลัง พอที่จะยืนหยัดและช่วยปกป้องประเทศไทยได้ด้วยแค่สองมือ

เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วในวันนี้ แต่เราก็ไม่อยากที่จะนั่งอยู่เฉยๆ

หวังว่าเสียงเล็กๆของเราจะดังไปถึงหัวใจของคนไทยทุกคนที่ได้อ่าน


ขอร้อง

...

ขอร้องเถอะค่ะ

หยุดทำร้ายประเทศไทยกันเสียที..

1 ความคิดเห็น: